หน้าเว็บ

wellcome to my blog

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กวน จริง ๆ นะ

ฝนตกอีกแล้วครับท่าน

ตากผ้าเสร็จ ฝนก็ตกซะไม่ฟังเสียงใคร งานเข้าอีกแว้วตู แล้วจะมีผ้าใส่ไปเรียนพรุ่งนี้ไหมนะเรา

เศร้า ๆๆๆ

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

don't wait

Don't wait for a smile to be nice.. อย่ารอคอยให้ได้รับรอยยิ้ม แล้วจึงทำดี

Don't wait to be loved, to love. อย่ารอคอยให้มีคนรัก แล้วจึงมอบความรักแก่ผู้อื่น

Don't wait to be lonely, to recognize the value of a friend. อย่ารอคอยจนกลายเป็นคนโดดเดี่ยว แล้วจึงเห็นคุณค่าของเพื่อน

Don't wait for the best job, to begin to work. อย่ารอคอยให้ได้งานที่ดีที่สุด แล้วจึงเริ่มทำงาน

Don't wait to have a lot, to share a bit. อย่ารอคอยให้มีมากๆ แล้วจึงเริ่มแบ่งปันเพียงน้อยนิด

Don't wait for the fall, to remember the advice. อย่ารอคอยจนพบความล้มเหลว จึงจดจำคำแนะนำของผู้อื่น

Don't wait for pair, to believe in prayer. อย่ารอคอยจนพบเนื้อคู่ แล้วจึงเชื่อในคำอธิษฐาน

Don't wait to have time, to be able to serve. อย่ารอคอยให้มีเวลา แล้วจึงทำประโยชน์

Don't wait for anybody else pain, to ask for apologies... neither seperation to make it up.
อย่ารอคอยให้คนอื่นเจ็บปวดเสียก่อนแล้วจึงขอโทษ หรือเลิกคบกันก่อน แล้วจึงหวนมาคืนดี

Don't wait... Because you don't know how long it will takes. อย่ารอคอย......เพราะคุณไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าใด

นวัตกรรมทางการศึกษา

นวัตกรรมการศึกษา

นวัตกรรมทางการศึกษา (Educational Innovation) หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำรวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษาเพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียนและช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ(Interactive Video) สื่อหลายมิติ (Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น
นวัตกรรม แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 มีการประดิษฐ์คิดค้น (Innovation) หรือเป็นการปรุงแต่งของเก่าให้เหมาะสมกับกาลสมัย
ระยะที่ 2 พัฒนาการ (Development) มีการทดลองในแหล่งทดลองจัดทำอยู่ในลักษณะของโครงการทดลองปฏิบัติก่อน (Pilot Project)
ระยะที่ 3 การนำเอาไปปฏิบัติในสถานการณ์ทั่วไป ซึ่งจัดว่าเป็นนวัตกรรมขั้นสมบูรณ์
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลอันมีผลทำให้เกิดนวัตกรรม
1. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different) นวัตกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวความคิดพื้นฐานนี้ เช่น
- การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- เครื่องสอน (Teaching Machine)
- การสอนเป็นคณะ (TeamTeaching)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
- เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
2. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความพร้อม (Readiness) นวัตกรรมที่สนองแนว ความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น - ศูนย์การเรียน (Learning Center)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
-การปรับปรุงการสอนสามชั้น (Instructional Development in 3 Phases)

3. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการใช้เวลาเพื่อการศึกษา นวัตกรรมที่สนองแนวความคิด เช่น
- การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)
- มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- การเรียนทางไปรษณีย์

4. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการขยายตัวทางวิชาการและอัตราการเพิ่มประชากรนวัตกรรมในด้านนี้ที่เกิดขึ้น เช่น
- มหาวิทยาลัยเปิด
- การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์
- การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป
- ชุดการเรียน

วิเคราะห์นวัตกรรมทางการศึกษา .doc

http://www.mediafire.com/?ch8m5q4u76r6egb